วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

นารีขี่ม้าขาว

นารีขี่ม้าขาว

จากคำทำนายที่มีมาช้านานของพ่อฤาษีลิงดำ ในใจความส่วนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า...

เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย 
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย 
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน 
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช 
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น 
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล 
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม 
ความระทมจะถมทับนับเทวศ 
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม 
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม 
ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง 
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ 

ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม 
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ 
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป 
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา 
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น 
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา 
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา 
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ

ไม่ว่าคำทำนายดังกล่าวจะมีความแม่นยำเพียงใด แต่คำทำนายก็ได้สะท้อนให้เห็นจริงตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่่ว่า "ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม" และท้ายที่สุดแล้ว ผู้ประพฤติชั่วจะได้รับบทเรียนอย่างแสนสาหัส

ไม่ว่าประเทศไทยจะอยู่ในสถานการณ์เช่นใด หากแต่ประชากรชาวไทยที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารจะไม่คล้อยตามไปกับการเอาตัวรอดที่ปราศจากซึ่งคุณงามความดี และไม่หวั่นเกรงที่จะยืนหยัดต่อการเป็นลูกของเจ้าอยู่หัวที่ดี ยืนหยัดอยู่ในจุดยืนแห่งความถูกต้อง

ความดีเท่านั้นที่จะสามารถคุ้มครองผู้ประพฤติดี ส่วนความชั่วนั้น ในทีแรกอาจดูเหมือนมีอำนาจ ทำอะไรด้วยความไม่เกรงกลัวต่อบาปได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเย้ายวลให้กระทำ ด้วยเป็นกรรมที่ทำได้ง่าย เป็นไปตามดั่งใจหมายโดยไว อย่างไรก็ตาม เมื่อเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมบารมีที่สร้างมาจากวัตถุนิยม ความชั่วก็จะกลับมาทำร้ายความชั่วด้วยกันเอง จนกระทั่งความชั่วค่อยๆ เข้าสู่ความหายนะ ขณะที่ ความดีที่มีบารมีจากคุณธรรมโดยแท้จริง ย่อมก่อให้เกิดศรัทธาทางจิตใจที่ยั่งยืน ด้วยผู้กระทำประจักษ์ว่า ความดีทำให้จิตใจผ่องแผ้ว เบิกบาน เปี่ยมไปด้วยความสุข ผิดจาก ความชั่วที่กระทำได้โดยง่ายกว่า ด้วยกิเลสที่เย้ายวล แต่ภายหลังที่ไ้ด้กระทำ จะถูกสามัญสำนึกทำให้เกิดความระแวงว่า กรรมจะบดบังให้เกิดการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมบารมี เพราะทั้งหมดที่ได้มาเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน ประหนึ่งเปลวไฟที่แผดเผา กัดกร่อนจิตใจของความเป็นมนุษย์ ให้เสื่อมถอยใกล้ความเป็นเดรัจฉาน

ไม่ว่านารีขี่ม้าขาวจะมีจริงหรือไม่? สุดท้ายสิ่งที่ประเทศชาติกำลังรอคอย คือ ประชาชนผู้มีจิตใจสีขาว ผู้ซึ่งกระทำแต่สิ่งถูกต้อง โดยไม่เกรงกลัวต่ออำนาจชั่ว และยึดมั่นคติที่ว่า ทุกสิ่งเป็นสิ่งอนิจจัง เว้นเสียแต่ ความดี ที่เป็นจีรังยั่งยืนเท่านั้นที่จะคุ้มครองผู้ประพฤติดี

ขอพระบรมราชานุญาตอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์อันสะท้อนถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะปกปักษ์รักษาปวงชนชาวไทยดั่งพระราชดำรัสครั้งเสวยราชสมบัิติ

" เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม "

ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่ผสกนิกรชาวสยามแล้ว แล้วผสกนิกรเล่า จะมิตอบแทนพระเดชพระคุณ เป็นผสกนิกรที่ดีที่ดำเนินวิถีชีวิตตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และพ่ออยู่หัวของแผ่นดินเลยหรือ?

"จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง
จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"



วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

แด่...กลียุคแห่งการครอบงำ

แด่...กลียุคแห่งการครอบงำ

จากการติดตามข่าวที่ออกมาเป็นระลอกๆ ละครน้ำดีเรื่องหนึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์ที่วงการบันเทิงต้องจารึกอีกครั้ง แม้จะต้องปิดฉากรวดเร็วไปอย่างน่าเสียดายและ "เหนือเมฆ" ตามชื่อละคร หากจะกล่าวตามความจริงแล้ว เหตุการณ์เช่นนี้ได้เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แล้วกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งเคยเป็นข่าวดังอยู่สักพักหนึ่งในสมัยที่ข้าพเจ้ายังเยาว์ ก่อนที่กระแสข่าวจะเลือนหายไปตามกาลเวลา ตอกย้ำวลีที่ว่า "คนไทยลืมง่าย" ด้วยเพียงเพราะชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อพาดพิงถึงแก้วตาดวงใจของผู้ (ที่อุปโลกน์ไปเองว่า) มีอำนาจล้นฟ้า ซึ่งผู้นั้นได้ใช้อำนาจจอมปลอมในการถอดภาพยนตร์เรื่องนี้

เหตุการณ์เช่นเดิมได้วนเวียนกลับมาอีกครั้ง ราวกับว่า วงจรแห่ง "อำนาจมืด" ได้เข้าครอบงำประเทศแห่งประชาธิปไตย ประเทศ "ไท(ย)" ที่ควรจะมีอิสระและเสรีภาพตามนามใหม่ที่ได้ใช้แทนนามเก่าแก่แต่มีมนต์ขลังอย่าง "สยาม" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเป็นการตอกย้ำถึงการเข้าสู่กลียุคแห่งการครอบงำ เริ่มตั้งแต่ การมอมเมาผู้คนให้หลงเชื่อในสิ่งผิด ทำให้น้ำใจไมตรี กลับกลายเป็นการแก่งแย่งชิงดีเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจมืด

อย่างไรก็ดี ได้มีผู้กล้ากลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ได้ใช้สิทธิ์ที่พวกเขาพึงมีอย่างเต็มความสามารถ ในการตีแผ่และปลดปล่อยกลุ่มคนที่ถูกมอมเมา ผ่านบทประพันธ์ที่เต็มไปด้วยแสงทองแห่งความดี เผยแพร่ในรูปแบบของละครโทรทัศน์ และวางกลุ่มเป้าหมายเป็นชนรุ่นใหม่ ด้วยการนำนักแสดงยอดนิยมมาเป็นผู้ร่วมเผยแพร่ การกระทำทั้งหมดนี้ สื่อให้เห็นถึงความพยายามในการต่อต้านอำนาจมืดที่กำลังปกคลุมอยู่ในปัจจุบัน

แม้จะเป็นผู้คนเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ด้วย "อำนาจแห่งความดี" ทำให้แสงความดีค่อยๆขยายรัศมีเพื่อต่อสู้กับอำนาจมืดดังกล่าวอย่างสูสี อาจเพราะอำนาจมืดเริ่มเพลี่ยงพล้ำ จึงแสดงฤทธาแบบเขลาๆ ด้วยการครอบงำผู้คนอีกครั้ง หากไร้ซึ่งความไตร่ตรองด้วยความร้อนรน ทำให้ลืมสังวรณ์ไปว่า "ความดีไม่มีวันตาย ความดีจะปกป้องผู้ประพฤติดี" แล้วเมื่อถึงวันนั้น วันแห่งการพิพากษา อำนาจมืดจะได้รู้ซึ้งถึงสัจธรรมข้อนี้อย่างแท้จริงในเวลาที่ "สายไปแล้ว"

เหล่าผู้กล้านี้ จงภูมิใจว่าสิ่งที่ท่านได้ทุ่มเทไปนั้นมิได้สูญเปล่าแต่อย่างใด แต่กลับสัมฤทธิ์ผลแล้ว ด้วยการปลุกอำนาจแห่งความดี ให้แผ่รัศมีส่องสว่างในใจผู้คนทั้งหลาย มิให้ถูกครอบงำโดยอำนาจมืด เพราะผู้คนเหล่านี้ได้ตระหนักดีแล้วว่า "อำนาจมืดเป็นสิ่งไม่จีรัง หากแต่ความดีนั้นไซร้ที่ไม่มีวันตาย"

บทความนี้ ขออุทิศให้แด่เหล่าผู้กล้าทั้งหลายที่กำลังต่อสู้กับอำนาจมืดอย่างไม่ท้อถอย ....

สัจธรรม " ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว " ยังคงเป็นความจริงอันนิรันดร์

แม้ว่ากรรมดีนั้นอาจจะไม่ได้สัมฤทธิ์ผลโดยทันที เพื่อเป็นการทดสอบ "ขันติ" ของผู้ประพฤติดี
หากแต่กรรมชั่วจะลงทัณฑ์ผู้ประพฤติชั่วภายในช่วงเวลาอันสั้น ดังคำกล่าวที่ว่า "กรรมติดจรวด"